ยีสต์น้ำกับยีสต์แห้ง
![ยีสต์น้ำกับยีสต์แห้ง ยีสต์น้ำกับยีสต์แห้ง](https://www.thecasamio.com/wp-content/uploads/2023/01/ยีสต์น้ำกับยีสต์แห้ง-1.jpg)
ยีสต์น้ำ (Liquid Yeast) และ ยีสต์แห้ง (Dry Yeast) มี ข้อแตกต่าง กันยังไง? จะเลือกใช้ ยีสต์ แบบไหนดี จริงๆ แล้ว ทั้ง ยีสต์น้ำ (Liquid Yeast) และ ยีสต์แห้ง (Dry Yeast) นี้มีทั้งข้อดีกับข้อเสีย
ยีสต์น้ำ (Liquid Yeast)
![ยีสต์น้ำ ยีสต์น้ำ](https://www.thecasamio.com/wp-content/uploads/2023/01/ยีสต์น้ำ.jpg)
ข้อดี
ยีสต์น้ำ (Liquid Yeast)มีให้เลือกหลายหลาย มากถึง ร้อย ชนิดเลย เหมาะสำหรับการทำเบียร์แบบเฉพาะเจาะจง โดยมี ยีสต์ เป็นตัวแปรหลักในเรื่องรสชาติ เช่น ถ้าต้องการจะทำจะเบียร์ที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจงมากๆ อย่างกลุ่ม Belgium Beer ซึ่งยีสต์จะเป็นนตัวหลักที่จะทำให้รสชาติเบียร์ออกมาในแบบเฉพาะนั้น โดย Yeast ดังกล่าวจะหาไม่ได้จากยีสต์แห้ง (Dry Yeast)
ข้อเสีย
- ยีสต์น้ำ (Liquid Yeast)ราคาแพงกว่า ยีสต์แห้ง (Dry Yeast) ถึง 2 -3 เท่า ซึ่งจะทำให้ต้นทุนค่าหมักเบียร์สูงขึ้น
- จำนวน เซลล์ของ ยีสต์น้ำ ซึ่งจะมีน้อยกว่าปรกติ ถึงแม้ว่าจะเเขียนลงบนฉลากว่า มีอย่างเพียงพอ แต่ด้วยว่าระหว่างการขนส่ง หรือแม้แต่การเก็บรักษาที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เซลล์ของยีสต์ ที่มีอยู่ลดลง ซึ่งทำให้ต้องมีอีกขั้นตอนหนึ่งเรียกว่า การทำ Yeast Stater
ยีสต์แห้ง (Dry Yeast)
![ยีสต์แห้ง ยีสต์แห้ง](https://www.thecasamio.com/wp-content/uploads/2023/01/ยีสต์แห้ง.jpg)
ข้อดี
- ยีสต์แห้ง (Dry Yeast) ราคาถูกกว่า
- มีจำนวนเซลล์ของ ยีสต์แห้ง (Dry Yeast) เยอะกว่า แต่ต้องเก็บรักษาในอุนหภูมิที่เย็น
- ไม่ต้องมีการทำ Yeast Stater (แต่แนะนำว่าต้อง Re-hydrate ยีสต์ ก่อนนะ)
- เวลาหมักจะให้ Clean Finishing โดยทำงานแค่หน้าที่ของมันกินน้ำตาล สร้างแอลกอฮอล์
ข้อเสีย
-
ยีสต์แห้ง (Dry Yeast) มีชนิดให้เลือกน้อย เนื่องจาก กระบวนการในการทำ Dry Yeast โดยจะต้องดึงน้ำ และความชื้นต่างๆออกไป ทำให้ ยีสต์ บางตัวไม่สามารถสกัดออกมาได้ (เลยต้องใช้แบบน้ำแทน) แต่การหมักประเภท Pale Ale , IPA หรือ Amber Ale ก็สามารถใช้ ยีสต์แห้ง (Dry Yeast) ได้โดยไม่ได้กระทบอะไร เช่น Safale US-05 , Safale S-04